3 สายพันธุ์ของหนูแฮมสเตอร์ที่น่าสนใจ

สายพันธุ์ของหนูแฮมสเตอร์

หากว่ากันด้วยเรื่องของสัตว์เลี้ยงตัวน้อยแสนน่ารัก ก็คงจะไม่มีใครไม่กล่าวถึง “หนูแฮมเตอร์” กันใช่มั้ยหล่ะครับ ซึ่งสายพันธุ์ของพวกเค้าก็มีหลายตัวเลยก็ว่าได้ แต่ในวันนี้เราจะขอแนะนำ “3 สายพันธุ์ของหนูแฮมสเตอร์ที่น่าสนใจ” ให้กับท่านที่สนใจได้ฟังกันครับ เพื่อเป็นการไม่ยืดเยื้อเวลาจนเกินไป เราไปชมกันเลยดีกว่าครับ…

หากว่ากันด้วยเรื่องของสัตว์เลี้ยงตัวน้อยแสนน่ารัก ก็คงจะไม่มีใครไม่กล่าวถึง “หนูแฮมเตอร์” กันใช่มั้ยหล่ะครับ ซึ่งสายพันธุ์ของพวกเค้าก็มีหลายตัวเลยก็ว่าได้ แต่ในวันนี้เราจะขอแนะนำ “3 สายพันธุ์ของหนูแฮมสเตอร์ที่น่าสนใจ” ให้กับท่านที่สนใจได้ฟังกันครับ เพื่อเป็นการไม่ยืดเยื้อเวลาจนเกินไป เราไปชมกันเลยดีกว่าครับ…

ต้นกำเนิดของหนูแฮมสเตอร์ที่น่ารู้

แฮมสเตอร์เป็นสัตว์จำพวกฟันแทะ(Rodent) ขนาดเล็ก สัตว์ในจำพวกนี้ได้แก บีเวอร์ กระรอก กระต่าย ซึ่งแฮมสเตอร์  เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กจำพวกหนึ่ง ในอันดับสัตว์ฟันแทะ (Rodentia) จัดอยู่ในวงศ์ย่อย Cricetinae ในวงศ์ Cricetidae) มีหลากหลายสกุล หลายชนิด ซึ่งหนูแฮมสเตอร์มีแหล่งที่มาจาก ทะเลทรายของภูมิภาคตะวันออกกลาง, เอเชียกลาง จนถึงเอเชียตะวันออก ถูกค้นพบครั้งแรกในศตวรรษที่ 19 กลางทะเลทรายซีเรียน และถูกนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงครั้งแรกเมื่อปี 1930 ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งคำว่า “แฮมสเตอร์” (Hamster) นั้นที่มาจากภาษาเยอรมัน แปลว่า “กระพุ้งแก้ม” เนื่องจากแฮมสเตอร์นั้นมีกระพุ้งแก้มที่ใช้สำหรับเก็บอาหารได้มาก เทียบเท่ากับมนุษย์หนึ่งคนที่เก็บอาหารที่มีน้ำหนักถึง 70 ปอนด์ ไว้ในกระพุ้งแก้ม

ลักษณะโดยทั่วไปของแฮมสเตอร์ ขนาดตัวจะมีขนาดเล็ก อ้วนป้อม และมีหางสั้นกว่าลำตัว และมีขนาดเล็ก อย่างเห็นได้ชัด สีขนมีหลายสี เช่น ดำ, เทา, ขาว, น้ำตาล, เหลืองเข้ม, เหลือง และแดง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับชนิดที่แตกต่างกันออกไป ส่วนสีขนด้านใต้ท้องจะเป็นสีขาว มีตาดวงกลมโต และจมูกที่ไวต่อการได้กลิ่นหอม

    หนูแฮมสเตอร์นั้นเป็นสัตว์ที่จะนอนในเวลากลางวันครับแล้วก็จะตื่นออกมาวิ่งเล่นในเวลากลางคืนครับ โดยส่วนมากจะออกมากินแล้วก็เล่นครับแต่สำหรับเรื่องกินแล้ว จะว่ากินทั้งวันก็ว่าได้ครับโดยจะตื่นมากินเป็นช่วงๆ อีกด้วยหล่ะครับ

แนะนำ 3 สายพันธุ์หนูแฮมสเตอร์น่าเลี้ยง

  • Syrian Hamster หรือเป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า “ไจแอนท์” ที่คนนิยมเลี้ยงชนิดนี้เพราะมีขนาดใหญ่ที่สุด หากเรามีการเอาใจใส่เป็นพิเศษจะมีความเป็นมิตรและเชื่องมากๆ สามารถจับมาดูแลได้ง่ายและยังเป็นหนูที่รักเจ้าของมากๆอีกด้วย
  • Dwarf Winter White Russian Hamster มีลักษณะที่สังเกตได้คือหน้าจะสั้นทู่ ตัวกลม ขนแน่นนุ่มและเงา หางจะกุด สีขนมักจะอ่อนลงในหน้าหนาว มี 3 สีคือ เทาน้ำตาล เทาเงินอ่อน ขาวหลังเทา มีขนาดตัวอยู่ที่ประมาณ 10-12 เซนติเมตร จะมีรักสันโดษและหวงถิ่น ไม่ดุมากแต่ก็ไม่เชื่องและใจดีเท่าไจแอนท์
  • Dwarf Roborovski Hamster โรโบตัวจี๊ด เจ้าหนูตัวแคระ ตัวเล็กจิ๋วที่สุด เร็วสุด จับทีแทบไม่ทัน เพราะวิ่งเร็วมากๆ มีขนาดตัวที่เล็ก หางสั้นกุด หน้าสั้น สีขนเป็นสีน้ำตาลอมเทาไม่มีเส้นคาดหลัง โตเต็มวัยจะมีขนาดเพียงแค่ 4-5 เซนติเมตรเท่านั้น เป็นหนูแฮมสเตอร์สายพันธ์ุมีอายุยืนมากที่สุด มีนิสัยรักพวกพ้อง ชอบอยู่กัน เป็นกลุ่ม ควรเลี้ยงเป็นเพศเดียวกัน ขี้ตกใจ หวาดกลัว เหมาะกับที่ไม่ค่อยมีเวลาเล่นกับน้องหรือแค่อยากมองความน่ารักของน้องเพลินๆ

อาหารที่หนูแฮมสเตอร์กินไม่ได้

  • อาหารที่ไม่ปลอดภัยสำหรับแฮมสเตอร์ ได้แก่ หัวหอม มันฝรั่งดิบ กระเทียม น้ำอัดลม ลูกกวาด เป็นต้น
  • ช็อกโกแลต เป็นสิ่งที่ห้ามเด็ดขาดเลย บางคนอาจจะคิดว่าช็อกโกแลตเป็นเหมือน ขนมหนูแฮมเตอร์ แต่ความเป็นจริงมันเป็นเหมือนยาพิษเลยแหละ เพราะว่าในช็อกโกแลตมีสารบางชนิด ที่เป็นพิษโดยตรงกับเฉมสเตอร์เลย
  • ของหวานทั้งหลาย พวกของหวานเหล่านี้ถึงแม้เราจะชอบกินก็ตาม แต่ก็ไม่ควรจะเอาไปใช้กับหนูแฮมสเตอร์ของเราด้วย เพราะเสี่ยงที่ทำให้เป็นโรคเบาหวานได้ง่ายเลย
  • อาหารของสัตว์ชนิดอื่น อย่างเช่นอาหารกระต่าย ก็ไม่ควรจะเอามาใช้รวมกับอาหารของแฮมสเตอร์ด้วย เพราะอาจจะมีผลเสียทางด้านร่างกายของแฮมสเตอร์

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับ “3 สายพันธุ์ของหนูแฮมสเตอร์ที่น่าสนใจ” พร้อมกับแนะนำอาหารที่น้องๆ ห้ามกินโดยเด็ดคาดให้ทุกๆ ท่านไปอ่านเก็บไว้เป็นความรู้ คิดว่าน่าจะชอบและเป็นประโยชน์กันไม่มากก็น้อยนะครับ

Comments are closed.